การวางแผนจำหน่าย ( Discharge Planning )
แนวคิด : สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล 2545
- การเตรียมจำหน่ายและการดูแลต่อเนื่อง
- เป็นกระบวนการเพื่อเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยจากระดับหนึ่งไปอีกระดับหนึ่งของการดูแล
แนวคิด : ดร.ชนวนทอง ธนสุกาญจน์ 2548
- การวางแผนดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องเป็นกระบวนการที่ช่วยผู้ป่วยแต่ละคนได้รับการเตรียมตัวในการออกจากการดูแลจากแพทย์ และทีมสุขภาพ ไปสู่การดูแลตนเองที่บ้าน
การวางแผนจำหน่าย ประกอบด้วย 3 กระบวนการดังนี้
1. การประเมิน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.1 การประเมินผู้ป่วย รวมถึงญาติและครอบครัว
1.2 การประเมินปัญหาสภาพแวดล้อมเมื่อผู้ป่วยกลับบ้าน
2. แนวทางปฏิบัติโดยใช้รูปแบบ D-METHOD ซึ่งประกอบด้วย
M = Medication ผู้ป่วยต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับยาที่ได้รับอย่างละเอียด ตั้งแต่ฤทธิ์ของยา
วัตถุประสงค์การใช้ วิธีการใช้ ข้อควรระวัง อาการข้างเคียงของยา เป็นต้น
E = Environment and Economic ผู้ป่วยต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อมที่บ้านให้
เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ การใช้แหล่งประโยชน์ในชุมชน รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการ
ปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม
T = Treatment ผู้ป่วยและครอบครัวต้องได้รับความรู้ ความเข้าใจเป้าหมายของการรักษาพยาบาล
การสังเกตอาการผิดปกติ และมีความรู้เพียงพอในการจัดการกับภาวะฉุกเฉินได้ด้วยตนเองอย่าง
เหมาะสม
H = Health ผู้ป่วยและครอบครัวต้องเข้าใจภาวะสุขภาพของตนเอง มีข้อจำกัดใดๆทั้งเรื่องการ
รับประทานอาหาร การใช้ชีวิตประจำวัน การออกกำลังกาย และการป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ต่างๆ
O = Out patient Referral ผู้ป่วยต้องเข้าใจและทราบความสำคัญของการมาตรวจตามแพทย์นัด
และการติดต่อขอความช่วยเหลือ กรณีเกิดภาวะฉุกเฉินหรือมีอาการเฉียบพลัน
D = Diet ผู้ป่วยต้องเข้าใจและสามารถเลือกรับประทานอาหารได้ถูกต้องเหมาะสมกับสุขภาพ
และโรคที่เป็น รวมทั้งรู้จักหลีกเลี่ยงหรืองดอาหารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
3. การประเมินผลเพื่อการดูแลต่อเนื่อง ประกอบด้วย
3.1 การนัดผู้ป่วยมาตรวจซ้ำ
3.2 การประสานงาน เพื่อให้ผู้ป่วยไปรับการรักษาต่อที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
3.3 การเยี่ยมบ้านผู้ป่วย ( กรณีจำเป็น ) โดยทีมสุขภาพ HHC
แผนการจำหน่ายผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตา
หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันพบคนไทยเป็นโรคเบาหวานจำนวนประมาณ 4 ล้านคน โรคเบาหวานมีผลทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะที่สำคัญของร่างกาย เช่น หัวใจ ไต สมอง ตา และระบบอื่นๆ แต่เนื่องจากวิทยาการทางการแพทย์และการรักษาที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีอายุยืนยาวขึ้น โรคแทรกซ้อนที่สำคัญของเบาหวานที่เป็นปัญหาทางสังคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจผู้ป่วย และบุคคลที่อยู่รอบข้าง คือเบาหวานขึ้นตา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สายตาพิการและเกิดตาบอดได้เป็นอันดับต้นๆของประเทศไทยและทั่วโลก ผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตาที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลราชวิถีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี
รองจากโรคต้อกระจก ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาและต้องนอนพักในโรงพยาบาล ส่วนใหญ่จะได้รับการรักษาโดยการทำผ่าตัด คือการผ่าตัดน้ำวุ้นตา ( Vitrectomy ) พร้อมทั้งยิงเลเซอร์ ( Endolaser ) และใส่ Silicone Oil หรือ ฉีดแก๊ส C3F8 ร่วมด้วย
ดังนั้น ถ้าผู้ป่วยไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคที่เป็น ไม่เข้าใจวิธีการปฏิบัติตัวตั้งแต่ก่อนผ่าตัด หลังผ่าตัด จนกระทั่งกลับบ้าน ตลอดจนไม่เห็นความสำคัญของคำแนะนำที่ได้รับ ก็จะทำให้การรักษาไม่ได้ผลเท่าที่ควร อาจต้องผ่าตัดซ้ำและเกิดภาวะแทรกซ้อนโรคต้อกระจก ต้อหิน ได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ภายหลังการจำหน่ายผู้ป่วยจำเป็นต้องมาติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการรักษาโรคเบาหวาน เพราะหากผู้ป่วยปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป อาจเกิดเบาหวานขึ้นตาได้อีก
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับแผนการรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง
2. เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลต่อเนื่องอย่างมีคุณภาพ
อุปกรณ์ / เครื่องมือ
แบบแผนการให้ความรู้และฝึกทักษะผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตาก่อนจำหน่าย
ผู้รับผิดชอบ
พยาบาลวิชาชีพ
บทบาทหน้าที่ของพยาบาล
1. ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ทักษะของผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับโรคที่เป็น เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนกำหนดกิจกรรมให้สอดคล้องเหมาะสม
2. ประเมินความต้องการ การดูแลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม เพื่อคาดการณ์ล่วงหน้าถึงปัญหาสุขภาพ หรือความต้องการการดูแลสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการจำหน่าย
3. เป็นตัวกลางประสานในการวางแผนร่วมกันระหว่างบุคลากรในทีมสหสาขาวิชาชีพ รวมทั้งผู้ป่วยและครอบครัว
4. ผสมผสานกิจกรรมช่วยเหลือ การสอน การให้คำปรึกษาแนะนำ ฝึกทักษะการดูแลตนเอง รวมทั้งจัดอุปกรณ์ ของใช้ ยาหลับบ้าน โดยการดูแลให้เหมาะสมกับสภาพของผู้ป่วยแต่ละคน
5. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้ข้อมูลและส่งต่อแผนการจำหน่าย กรณีต้องส่งต่อผู้ป่วยเพื่อการรักษาต่อไป
แนวทางปฏิบัติ
ผู้ป่วยรับใหม่ทุกราย / ญาติ ต้องได้รับการประเมิน และได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ดังต่อไปนี้
1. ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน การดูแลตนเองเมื่อเป็นเบาหวาน โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน
การเกิดเบาหวานขึ้นตา และแผนการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยรายนี้ ( ปกตินอนโรงพยาบาล 2-3 วัน )
พร้อมให้เอกสารแผ่นพับคู่มือการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตา แก่ผู้ป่วย / ญาติได้อ่านเพื่อ
ความเข้าใจที่ถูกต้อง
2. ให้ความรู้เรื่องอาหารเฉพาะโรคเบาหวาน ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมอาหาร การเลือกรับประทานอาหาร โดยเฉพาะการงดของหวาน การลด / หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันสัตว์ ตลอดจนการควบคุมอาหาร ไม่ปล่อยให้อ้วน
3. ให้ความรู้เรื่องยาเบาหวานทั้งชนิดเม็ด / ชนิดฉีด ที่ผู้ป่วยได้รับ และอาการข้างเคียงของยาแต่ละชนิด
รวมถึงวิธีการดูแลเก็บยาให้ถูกต้อง และการพบแพทย์โรคเบาหวานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และการรักษาที่ต่อเนื่อง
4. ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัดตาทั่วๆไป เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะการฝึกท่านอน ตลอดจนการตรวจสอบ Marker ให้ถูกต้อง ก่อนส่งผู้ป่วยไปห้องผ่าตัด ให้คำแนะนำผู้ป่วยขณะนอนในห้องผ่าตัด จนกระทั่งแพทย์ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว และส่งผู้ป่วยกลับถึงตึก
5. ให้คำแนะนำการจัดท่านอนของผู้ป่วย โดยการให้ข้อมูลสำคัญถึงประโยชน์ของท่านอน ผลเสียและภาวะแทรกซ้อนของท่านอนที่ไม่ถูกต้อง การจัดเตรียมอุปกรณ์ ของใช้ให้พร้อม คอยดูแลช่วยเหลือเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยนอน / นั่ง คว่ำหน้าได้ถูกต้อง โดยให้ใบหน้าคว่ำในระดับแนวราบขนานกับพื้น อย่างน้อยวันละ 16 ชั่วโมงหรือมากกว่าเท่าที่จะทำได้
6. อธิบายให้ทราบถึงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัด เช่น ความดันในลูกตาสูง เลือดออกในตา
การติดเชื้อในตา เป็นต้น เพื่อให้ผู้ป่วยทราบถึงอาการและอาการแสดง และปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง เพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที
7. สอนและสาธิตวิธีการเช็ดตา การหยอดตา การป้ายตา การครอบตา แก่ผู้ป่วยและญาติ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และอาจให้ฝึกทดลองปฏิบัติ
8. ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้าน โดยใช้กิจกรรมการพยาบาลตามรูปแบบ D-METHOD
พร้อมให้เอกสารแผ่นพับคำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดตาเมื่อกลับบ้าน แก่ผู้ป่วยและญาติได้อ่านก่อน และทบทวนในแต่ละหัวข้อกับผู้ป่วย / ญาติ เกี่ยวกับเอกสารนี้ กับคู่มือการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตา ให้เข้าใจถูกต้องก่อนกลับบ้าน
9. ให้ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมสิ่งแวดล้อมที่บ้าน อาจต้องปรับพฤติกรรมบางอย่าง ผู้ป่วยและญาติต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากอุบัติเหตุการพลัดตก หกล้ม การป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรค เพราะการมองเห็นของผู้ป่วยยังไม่ดีขึ้น / มองเห็นไม่ชัด และมีท่านอนที่เฉพาะ เช่น นอนคว่ำหน้า / นอนศีรษะสูง ผู้ป่วยต้องระมัดระวังการขึ้น-ลงที่สูง การเดินภายในบ้านต้องหาที่ยึดเกาะ เทคนิคการจูงผู้ป่วยเดินของญาติ ที่นอน หมอน ปรับได้ตามความเหมาะสม การออกกำลังกายสามารถทำได้แต่ไม่ควรหักโหมจนเกินไป
นาน 1 เดือน เป็นต้น
10. ให้คำแนะนำผู้ป่วยได้ทราบถึงการเยี่ยมทางโทรศัพท์ ซึ่งพยาบาลจะโทรศัพท์เยี่ยมผู้ป่วยหลังการจำหน่ายวันที่ 1 และ 3 เพื่อสอบถามอาการ ปัญหา อาการผิดปกติ และให้คำแนะนำเพิ่มเติม โดยเน้นการมาตรวจตามแพทย์นัด
11. ให้ความรู้ถึงแหล่งประโยชน์ / แหล่งขอความช่วยเหลือเมื่อผู้ป่วยมีปัญหาขณะอยู่บ้าน สามารถขอคำปรึกษาทางโทรศัพท์ได้ตามหมายเลขในเอกสารแผ่นพับและขอรับการรักษาเบื้องต้นกับโรงพยาบาล สถานีอนามัย หรือศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านได้ก่อน
หมายเหตุ
1. วันที่ 1 ( Admit ) ให้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติ ข้อที่ 1-4
2. วันที่ 2 ( Operation ) ให้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติ ข้อที่ 5-6
3. วันที่ 3 ( Discharge ) ให้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติ ข้อที่ 7-11
4. กรณีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลถึงวันที่ 4 ให้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของวันที่ 3 ซ้ำอีกครั้ง
5. กรณีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลมากกว่า 4 วันขึ้นไป ให้ทบทวนแนวทางปฏิบัติในหัวข้อที่มีปัญหาซ้ำ
ได้อีกทุกวัน
ข้อควรระวัง
1. แนวทางปฏิบัติในแต่ละหัวข้อ สามารถปรับเปลี่ยนวัน เวลา ได้ตามความเหมาะสมสำหรับผู้ป่วย
บางราย แต่ต้องให้ได้รับครบทุกข้อ
2. กรณีผู้ป่วยนอนหงายท่าปกติ ให้ยกเว้นแนวทางปฏิบัติข้อที่ 5
3. การทบทวนข้อมูลกับผู้ป่วย / ญาติ ต้องปฏิบัติได้อย่างน้อย 7 ข้อ ของแนวทางปฏิบัติทั้งหมด
เกณฑ์การตรวจสอบ
1. แบบแผนการให้ความรู้และฝึกทักษะผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตาก่อนจำหน่าย พยาบาลปฏิบัติแต่ละ
กิจกรรม ได้ครบถ้วน ถูกต้อง
2. การสุ่มตรวจทบทวนกับผู้ป่วย / ญาติ ให้ข้อมูลถูกต้อง
3. อุบัติการณ์ การRe-admit ผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตาใน 28 วัน = 0 %
เอกสารอ้างอิง
1. กฤษดา แสวงดี, ธีรพร สถิรอังกูรและเรวดี ศิรินคร. แนวทางการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วย. กรุงเทพฯ :
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2539
2. วันเพ็ญ พิชิตพรชัย และอุษาวดี อัศดรวิเศษ. การวางแผนจำหน่ายผู้ป่วย แนวคิดและการประยุกต์ใช้.
(ฉบับปรับปรุง). คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2546.
3. น.พ.วรวุฒิ เจริญศิริ.(2551). เบาหวานขึ้นตา.[0n line].
http://www.oknation.net/blog/nunchaku/2008/01/23entry-2
ภาคผนวก
1. แบบแผนการให้ความรู้และฝึกทักษะผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตาก่อนจำหน่าย
2. เอกสารแผ่นพับคู่มือการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตา
ผู้จัดทำ
นางสาวเจริญศรี อาทิตยสร พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ด้านการพยาบาล
|